Wlecom To Blog Kru Ploy Na Ka

หน้าเว็บ


ขอฝากจากตลาดคลองสาน 100 ปี

วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เปิดตำนานถ้วย “FIFA World Cup”






ถ้าพูดถึงสิ่งล้ำค่าคงไม่มีใครที่จะปฏิเสธว่าไม่ต้องการอย่างแน่นอน (ยกเว้นผู้ที่ละแล้วซึ่งกิเลส) ในการแข่งขันฟุตบอลโลกก็เช่นเดียวกัน ทุกทีมปรารถนาในสิ่งเดียวกัน ไม่น่าเชื่อว่าที่ผ่านมาจะมีทีมที่ได้ครอบครองสิ่งล้ำค่านี้ไปได้เพียงทีมเดียวเท่านั้น


สิ่งล้ำค่าที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้คือ ถ้วยรางวัลฟุตบอลโลก ไม่เพียงแต่นักฟุตบอลเท่านั้นที่ต้องการ แต่ดูเหมือนจะเหมารวมไปถึงประชาชนในประเทศนั้นทั้งประเทศ ที่หวังจะครอบครองรางวัลอันทรงเกียรตินี้ หากอยากรู้ที่มาของสิ่งล้ำค่านี้คงต้องย้อนเวลากลับไปใน ปี ค.ศ. 1930 สงครามบนสนามรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าได้เริ่มต้นขึ้นที่ทวีปอเมริกาใต้ ประเทศอุรุกวัย คณะผู้จัดการแข่งขัน (FIFA) ได้มอบหมายให้ปฏิมากรชาวฝรั่งเศสชื่อว่า Abel Lafleur เป็นผู้สร้างสรรค์สิ่งล้ำค่านี้ขึ้น ถ้วยรางวัลใบแรกนี้มีชื่อว่า The Jules Rimet Cup

ซึ่งเป็นรูปปั้นขนาดเล็กทำมาจากเงินบริสุทธิ์ และแผ่นทองคำ ฐานทำมาจากอัญมณีสีน้ำเงิน ที่ฐานทั้ง 4 ด้าน มีแผ่นทองไว้จารึกชื่อของ 9 ประเทศที่ชนะเลิศการแข่งขันระหว่างปี ค.ศ. 1930-1970 มีความสูง 35 เซนติเมตร และหนักประมาณ 3.8 กิโลกรัม และท้ายที่สุดถ้วยรางวัลแห่งเกียรติยศนี้ก็ได้ตกไปอยู่ในมือของของประเทศบราซิล ซึ่งชนะการแข่งขันฟุตบอลโลกถึง 3 ครั้ง เมื่อปี ค.ศ. 1983 บราซิลจึงได้สิทธิ์ครอบครองถ้วยใบนี้อย่างถาวร แต่มีสิ่งที่น่าเศร้าคือ ขณะที่เก็บรักษาไว้ในกรุง Rio de Janiro พวกขโมยได้ลักลอบโจรกรรมถ้วยรางวัลอันล้ำค่านี้ และหลอมมัน เพียงเพื่อต้องการเงินบริสุทธิ์เท่านั้น

และหลังจากที่ถ้วยรางวัลใบแรกมีเจ้าของเป็นที่เรียบร้อยแล้ว FIFA จึงต้องมีหน้าที่จัดหาถ้วยรางวัลใบใหม่ขึ้นสำหรับการแข่งขันในปี ค.ศ. 1974 ซึ่งมีการคัดเลือกจาก 53 รูปแบบ โดยนักออกแบบมือฉมังจาก 7 ประเทศ และในที่สุดผลงานที่โดนใจกรรมการมากที่สุด เป็นผลงานของศิลปินชาวอิตาลีชื่อ Silvio Gazzaniga ถ้วยรางวัลนี้มีชื่อว่า The FIFA World Cup Trophy โดยลักษณะของถ้วยมีความหมายอยู่ว่า “ลายเส้นที่พันเป็นเกลียวขึ้นมาจากฐาน ได้โอบอุ้มลูกโลกที่อยู่บนยอดเอาไว้ และมันสื่อถึงห้วงที่มิอาจลืมเลือนที่นักกีฬา 2 คนได้ชูแขนเหยียดขึ้นสุดเพื่อรองรับลูกโลกในวินาทีแห่งชัยชนะ” ไม่น่าแปลกที่เราจะเห็นภาพจากคำนิยามของถ้วยนี้อยู่เสมอ เวลาถ้วยนี้ตกอยู่ในมือของผู้ชนะ พวกเขาจะปลาบปลื้มยินดีชูถ้วยขึ้นสุดแขนกันจริงๆ

The FIFA World Cup Trophy ทำขึ้นจากทองคำ 18 กะรัต ความสูง 36 เซนติเมตร และน้ำหนักอยู่ที่ 4,970 กรัม ตรงฐานมีการประดับด้วย Malachite (หินมาลาฮีท) 2 ชั้น และยังมีการเว้นช่องเล็กๆไว้ 17 ช่องเพื่อสลักชื่อทีมแชมป์ที่เคยได้ถ้วยใบนี้ไปครอบครองเอาไว้ด้วย ช่องเล็กๆที่ว่า สามารถรองรับการสลักชื่อทีมแชมป์โลกไว้ กระทั่งปี ค.ศ. 2038 โน่นเลยทีเดียว ไม่ต้องกลัวว่าจะหมดพื้นที่ง่ายๆ ดูจากส่วนประกอบต่างๆของถ้วยรางวัลใบนี้ก็พอจะบอกได้ว่ามีค่ามากมายแค่ไหน ถ้าจะพูดกันตามประสาชาวบ้าน ก็คือถ้วยนี้คงแพงมากที่สุดในบรรดาถ้วยรางวัลอื่นๆที่เคยทำมา

น่าเสียดายที่ The FIFA World Cup Trophy ใบนี้จะไม่ตกไปอยู่ในมือของใครเป็นการถาวรเหมือนอย่างที่บราซิลได้ The Jules Rimet Cup ไปครอบครอง แต่ The FIFA World Cup Trophy จะถูกเก็บไว้กับสหพันธ์ลูกหนังนานาชาติ ซึ่งทีมที่สามารถคว้าแชมป์โลกไปครองได้นั้นก็จะเชยชม สิ่งล้ำค่านี้จนถึงการแข่งขันครั้งต่อไปเท่านั้น โดยจะต้องมอบคืนให้กับ FIFA เพื่อมอบให้กับทีมที่จะคว้าแชมป์ทีมต่อไป แต่ทาง FIFA ไม่ได้ใจร้ายที่จะยึดคืนไว้เลย แต่พวกเขาจะเอาถ้วยที่จำลองจากของจริง ทำจากทองผสมมามอบให้กับทีมแชมป์เก่าเพื่อนำไปเก็บไว้เป็นที่ระลึกแทน

เมื่อถึง ปีค.ศ. 2038 ช่องเล็กๆที่เว้นไว้ 17 ช่อง เพื่อสลักชื่อทีมที่เคยได้แชมป์ ก็จะเต็มช่องเหล่านี้จากนั้นจะทำอย่างไรต่อไป FIFA ก็คงต้องปรึกษากัน สำหรับฟุตบอลโลก 2010 นี้ทีมใดจะได้ลิ้มรสความปลาบปลื้มแห่งรางวัลอันทรงเกียรตินี้ เราก็คงต้องมานั่งลุ้นกัน โดยที่หวังลึกๆว่าทีมนักรบบนสนามหญ้าที่เราชื่นชอบจะได้ครอบครองสิ่งล้ำค่าสิ่งนั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น