Wlecom To Blog Kru Ploy Na Ka

หน้าเว็บ


ขอฝากจากตลาดคลองสาน 100 ปี

วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวของนาซี












ประวัติศาสตร์ยุโรปโบราณมีปรากฎว่าชนชาติยิวคือ ชนหมู่น้อยชั้นต่ำระดับทาสแรงงาน ทำให้ถูกดูแคลนและกลั่นแกล้งเรื่อยมา แต่กระนั้นความเคร่งครัดศรัทธาที่มีต่อศาสนายิวได้กลายเป็นสิ่งเหนี่ยวรั้งชนชาติและเป็นโล่ต้านชะตากรรมอยู่เสมอ เมื่อยุโรปเข้าสู่ยุคคริสต์ศาสนาเรืองอำนาจ ชาวยิวในยุโรปกลับยิ่งถูกเกลียดชังมากยิ่งขึ้น ด้วยการถูกประนามว่า คนยิวคือผู้ทรยศ ยิวคือ "ผู้สังหารพระคริสต์" กระแสความเกลียดชังต่อต้านคนยิว [anti-Semitism] ไหลซึมผ่านกาลเวลามาตลอดประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นตัวสร้างกระแสการเกลียด “ ยิว” จนนำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวยิว ต่อมาจนมาถึงศตวรรษที่19 ประเทศเยอรมนีหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง Adolph Hitler (1898-1945) ผู้นำพรรคนาซีเริ่มแผนรณรงค์ต่อต้านคนยิวอย่างเป็นระบบ เริ่มด้วยการนิยามคำว่า " คนยิว" ตามสายพันธุ์ อันเป็นการโหมโรงของกฎหมายและคำสั่งต่อต้านคนยิวโดยเฉพาะที่จะมีตามมาอีกนับ ไม่ถ้วน ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 Adolph Hitler ได้เริ่มเคลื่อนย้ายชาวยิวไปแออัดรวมกันอยู่ในเขตที่เรียกว่า"ghetto" [เก็ตโต้] มีการสร้างกำแพงและล้อมรั้วลวดหนามแน่นหนา กลายเป็นเขตสลัมจากผลทางการเมืองที่มีสภาพแร้นแค้นอัตคัด ถูกจำกัดสิทธิ์ในทุกด้าน สินค้าที่ผ่านตลาดมืดเข้ามาในเขตกักกันมีราคาสูงลิบลิ่ว ต่อมาถูกเรียกว่า "death camp" หรือ "ค่ายมรณะ" เหล่านี้ เป็นค่ายที่ถูกสร้างขึ้นบนแผ่นดินประเทศโปแลนด์ในระหว่างถูกยึดครอง มีห้องที่ทำขึ้นพิเศษสำหรับรมแก๊สพิษเพื่อการสังหารโดยที่เหยื่อจะไม่ทราบล่วงหน้าเลย ทหาร นาซีจะนำตัวผู้ถูกกักกันไปยังห้องที่มีลักษณะคล้ายห้องอาบน้ำรวม มีฝักบัวติดไว้ให้อาบ ทุกคนจะได้รับแจ้งว่ากำลังจะถูกทำการชำระล้างเพื่อฆ่าเชื้อโรค หลังจากเสียชีวิตจากแก๊สพิษหมดแล้ว ศพจึงถูกนำไปกองเผาในโรงเผาอีกทีหนี่ง คนยิวที่ยังเหลืออยู่ภายนอก มักจะมองปล่องควันไฟเหล่านี้ด้วยความสงสัยผสมกับความกลัวโดยที่ไม่ทราบถึงความตายที่กำลังรออยู่นี้





เส้นผมของยิวจะถูกโกนออกทุกคน เพื่อนำไปใช้ในการทอเป็นพรม

เมื่อสงครามสงบลงในปี 1945 เหตการณ์ที่เกิดขึ้นจากการกระทำของนาซีเยอรมนีต่อคนยิวครั้งนี้ ถูกเรียกว่า Holocaust ["การเผาผลาญจนสิ้น"] มีผู้ประมาณว่า จำนวนตัวเลขคนตายจากการนี้มีถึงเกือบ 6 ล้านคน ราว 3 ล้านคนถูกฆ่าในค่ายกักกันมรณะ ราว 1.4 ล้านคนถูกยิงตาย และอีก 6 แสนคนต้องตายเพราะทนสภาพในเขตกักกันไม่ไหว แม้ ว่าจะมีผู้ตกเป็นเหยื่อในการฆาตกรรมหมู่ด้วยจำนวนที่มากมายเพียงนี้ แต่กว่าที่จะมีความพยายามในการค้นหาหลักฐานและสืบหาความจริงอย่างจริงจังของ เหตุการณ์ Holocaustกลับต้องใช้เวลาถึงเกือบยี่สิบปี มิเช่นนั้น เรื่อง นี้อาจจะต้องกลายสภาพไป เหลือเป็นเพียงตำนานที่มิอาจพิสูจน์ได้ว่าจริงเนื่องจากหลักฐานพยานส่วนใหญ่ มักจะเป็นเพียงคำบอกเล่าของพยานชาวยิวที่สามารถเอาชีวิตรอดพ้นมาได้เท่านั้น



เสื้อผ้าจำนวนมหาศาล จากค่ายกักกันในโปแลนด์

สภาพของชาวยิวในค่ายกักกัน buchenwald

เหตุการณ์นี้เป็นการกระทำที่มองมนุษย์ว่ามีค่าต่ำกว่า โดยพวกยิวถูกฆ่าอย่างเ***่ยมโหทารุณ ซึ่งเป็นการกระทำที่เหมือนมิใช่มนุษย์ เหตุการณ์ นี้เมื่อได้เปิดเผยออกสู่สาธารณชน สร้างความสะเทือนใจอย่างมากจนนำไปสู่การออกปฎิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน คุ้มครอง ส่งเสริม สิทธิเสรีภาพ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่มนุษย์ทุกคนมีได้อย่างเท่าเทียมกันและเสมอภาคกัน โดยที่คนอื่นไม่สามารถจะมาละเมิดได้

ในสมัยนั้นในความคิดของ ชาวนาซี คิดว่า ชาวยิว ไม่ใช่มนุษย์จึงได้กระทำการเช่นนี้ แล้วหลังจากนั้นจึงได้มีการ เรียกร้องและพูดถึงเรื่องของ "สิทธิมนุษยชน" และแผนการที่จะล้มล้าง ผู้นำนาซี ด้วย.



ใหนักโทษโกนผมกันเอง เปลื้องผ้าของผู้มาใหม่ สภาพไม่ต่างจากสัตว์ เปลือยกายต่อหน้าทหาร



ออกจากห้องแก้ส

หมายเหตุ จุดเริ่มต้นของ คำว่า สิทธิมนุษยชน(Human Rights) หมาย ถึง สิทธิของความเป็นมนุษย์ ในอดีตยังไม่เป็นที่แพร่หลาย จนภายหลังที่ได้มีการก่อตั้งองค์การสหประชาชาติแล้ว คำว่า สิทธิมนุษยชน จึงได้ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางทั้งในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ ในกฎบัตรสหประชาชาติได้กล่าวถึงสิทธิมนุษยชนไว้หลายแห่ง เช่นในอารัมภบท ได้กล่าวถึงความมุ่งหมายของสหประชาชาติไว้ว่า
“เพื่อเป็นการยืนยันและให้การรับรองถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ ในศักดิ์ศรีและคุณค่าของมนุษยชาติ"



ยิงซ้ำให้แน่ใจว่าตายจริง





จำนวนผู้เสียชีวิต

จำนวนที่แน่นอนของผู้ที่เสียชีวิตจากน้ำมือของนาซีอาจจะไม่มีใครล่วงรู้ แต่เชื่อว่ามีจำนวนผู้เคราะห์ร้าย ดังนี้

5-6 ล้านคน เป็นชาวยิว ซึ่งประกอบด้วยชาวโปแลนด์ที่เป็นยิว 3 ล้านคน
1.8-1.9 ล้านคน เป็นชาวคริสเตียนและผู้คนที่ไม่ใช่ชาวยิว แต่ต่อต้านพรรคนาซีและถูกนาซียึดครอง
200,000-800,000 คน เป็นชาวโรมันและชาวยิปซี
200,000-300,000 คน เป็นผู้ที่ไม่มีประโยชน์ในการใช้แรงงาน
80,000-200,000 คน เป็นผู้ที่มาจากสมาคมของยุโรปที่ต่อต้านการกระทำของพรรคนาซี
100,000 คน เป็นผู้ที่นับถือลัทธิคอมมิวนิสต์
10,000-25,000 เป็นพวกรักร่วมเพศ
2,500-5,000 เป็นชาวคริสเตียน นิกายพยานของพระยโฮวา (Jehovah's Witnesses)


รูล ฮิลเบิร์ก เจ้าของผลงานหนังสือ The Destruction of the European Jews (การสังหารชาวยุโรปเชื้อสายยิว) คาดว่ามีชาวยิวทั้งหมด 5.1 ล้านคนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์การล้างชาติพันธุ์ของนาซี จากสถิติกล่าวไว้ว่า มากกว่า 8 แสนคน เสียชีวิตจากบริเวณเกท-โทและความขาดแคลน, 1.4 ล้านคนเสียชีวิตเพราะถูกยิงทิ้งกลางแจ้ง และมากกว่า 2.9 ล้านคน เสียชีวิตอยู่ในค่ายกักกันนั้นเอง ฮิลเบิร์กประมาณการว่าน่าจะมีผู้เสียชีวิตในประเทศโปแลนด์เป็นจำนวนมากกว่า 3 ล้านคน ตัวเลขที่ฮิลเบิร์กนำมาพิจารณานี้ได้มาจากบันทึกเท่าที่หาได้ จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ

4 ความคิดเห็น:

  1. อ่านแล้วเศร้า แต่...ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ26 ตุลาคม 2553 เวลา 10:42

    ไอเหี้ยนาซีทำไมถึงโหดร้ายชาวยิวก็เป็นคนนะไม่เป็นพวกไม่มีสมอง
    อย่างแก

    ตอบลบ
  3. น่าสงสาร

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ24 ธันวาคม 2554 เวลา 17:20

    การบุกฆ่าชาวยิวที่โปแลนด์เพราะเป็นที่อยู่อาศัยของชาวยิว

    ตอบลบ